แก้ไขข้อผิดพลาด Windows Update 0x80240439 บน Windows 10
หากคุณพบรหัสข้อผิดพลาด0x80240439เมื่อติดตั้งการอัปเดตบนพีซี Windows 10 โพสต์นี้มีไว้เพื่อช่วยคุณ ในโพสต์นี้ เราจะนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมซึ่งคุณสามารถลองแก้ไขปัญหาได้
ข้อผิดพลาด Windows Update 0x80240439
หากคุณพบข้อผิดพลาด 0x80240439 ของ Windows Update(Windows Update error 0x80240439)คุณสามารถลองใช้วิธีแก้ปัญหาที่เราแนะนำตามลำดับที่แสดงด้านล่างเพื่อแก้ไขปัญหา
- เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหา Windows Update
- ล้างแคช Windows Update
- ทำการสแกน SFC และ DISM
- ทำการ Fresh StartหรือCloud Reset
มาดูคำอธิบายของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับโซลูชันแต่ละรายการกัน
1] เรียกใช้ตัวแก้ไขปัญหา Windows Update(Run Windows Update Troubleshooter)
โซลูชันนี้กำหนดให้คุณต้องเรียกใช้ตัว แก้ไขปัญหา Windows Update ในตัว และดูว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่
2] ล้างแคช Windows Update
โฟลเดอร์ Software Distribution(Software Distribution folder) ในระบบ ปฏิบัติการ Windows 10คือโฟลเดอร์ที่อยู่ใน ไดเร็กทอรี Windows(Windows directory) และใช้เพื่อจัดเก็บไฟล์ชั่วคราวที่อาจจำเป็นต้องติดตั้งWindows Updateบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
ล้างเนื้อหาของโฟลเดอร์ Software Distribution(Clear the contents of the Software Distribution folder) และดูว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่
3] ทำการสแกน SFC และ DISM
หากคุณมีข้อผิดพลาดของไฟล์ระบบ คุณอาจพบปัญหา
SFC/DISM เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ในWindows ที่(Windows)ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนหาความเสียหายใน ไฟล์ระบบ Windowsและกู้คืนไฟล์ที่เสียหายได้
เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว คุณสามารถเรียกใช้การสแกนโดยใช้ขั้นตอนด้านล่าง
- กดปุ่มWindows key + Rเพื่อเรียกใช้กล่องโต้ตอบเรียกใช้
- ในกล่องโต้ตอบ Run ให้พิมพ์notepadแล้วกด Enter เพื่อเปิด Notepad
- คัดลอกและวางไวยากรณ์ด้านล่างลงในโปรแกรมแก้ไขข้อความ
@echo off date /t & time /t echo Dism /Online /Cleanup-Image /StartComponentCleanup Dism /Online /Cleanup-Image /StartComponentCleanup echo ... date /t & time /t echo Dism /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth Dism /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth echo ... date /t & time /t echo SFC /scannow SFC /scannow date /t & time /t pause
- บันทึกไฟล์ด้วยชื่อและต่อท้าย นามสกุลไฟล์ . bat - เช่น; SFC_DISM.bat _
- เรียกใช้แบตช์ไฟล์ ซ้ำ ๆด้วยสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ(run the batch file with admin privilege) (คลิกขวาที่ไฟล์ที่บันทึกไว้และเลือก เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ(Run as Administrator)จากเมนูบริบท) จนกว่าจะรายงานว่าไม่มีข้อผิดพลาด
- รีสตาร์ทพีซีของคุณ
ในการบู๊ต ให้ลองอัปเดตอีกครั้ง หากข้อผิดพลาดยังคงอยู่ ให้ดำเนินการตามแนวทางแก้ไขปัญหาถัดไป
4] ทำการ(Perform)Fresh StartหรือCloud(Cloud Reset) Reset
ณ จุดนี้ หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข เป็นไปได้มากว่าเกิดจากความเสียหายของระบบบางประเภทที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามอัตภาพ ในกรณีนี้ คุณสามารถลองFresh Start, In-place upgrade repairเพื่อรีเซ็ตทุกองค์ประกอบของWindows นอกจากนี้ หากคุณใช้Windows 10เวอร์ชัน 1909 และใหม่กว่า คุณสามารถลองใช้ Cloud Reset(try Cloud Reset)และดูว่าจะช่วยได้หรือไม่
Any of these solutions should work for you!
Related posts
Fix Windows Update error 0x80070422 บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x8e5e03fa บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x80070659
Fix Windows Update error 0x80070541 บน Windows 10
Fix Windows Update error 0xc0020036 บน Windows 10
Windows Update error 80072EFE บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x80240008 บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x8024401f บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x8007043c
Fix Windows Update error 0x800706ba บน Windows 11/10
Fix Windows 10 Update error 0x80071160
Fix Windows Update ไม่สามารถติดตั้ง error 0x80240034
Fix Windows Update Error Code 800F0A13
Fix Windows Update Error 0x800703ee
Fix Windows Update error 0x80096004 บน Windows 11/10
Fix Windows Update error 0x800704c7 บน Windows 11/10
Fix Windows Update error 0x800f0845 บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x8007012f บน Windows 10
Fix Windows Update error 0x800f0984 บน Windows 10
ปุ่มปัญหา Fix บน Windows Update page